ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ชารางจืด สมุนไพรล้างสารพิษในร่างกาย

จำหน่าย รางจืดแห้ง ราคา ขีดละ 50 บาท สมุนไพร เทวา  ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ
สนใจสอบถามและสั่งซื้อได้ ที่ คุณ น้อย 0896810738

สรรพคุณรางจืดตามตำรายาไทย กล่าวไว้ว่า

"รางจืดรสเย็น ใช้ปรุงเป็นยาเขียวถอนพิษไข้ ถอนพิษผิดสำแดง และพิษอื่น ๆ ใช้แก้ร้อนในกระหายน้ำ รักษาโรคหอบหืดเรื้อรัง และแก้ผื่นคันจากอาการแพ้ต่าง ๆ ใช้แก้พิษเบื่อเมาเนื่องจากเห็ดพิษ สารหนู หรือแม้ยาเบื่อประเภทยาสั่ง ได้ผลชะงัดนักแล" สำหรับในหมู่นักเลงเหล้ารุ่นเก๋ากึ๊ก ย่อมรู้ดีว่ารางจืดช่วยถอนพิษสุราด้วย

จากประสบการณ์ผู้ใช้ สิ่ที่ยอมรับคือ หากดื่มสุราจัดเกินขนาด แล้วเกิดอาการแฮงก์โอเวอร์ หรือเมาค้าง รางจืดถอนได้แน่ หรือตามประสบการณ์ในวงเหล้า หากเคี้ยว หรืออมเถารางจืดไว้ใต้ลิ้น ถึงดื่มเหล้ามาก แต่ก็จะเมาน้อย

ยังมีรายงานการศึกษารางจืด พบว่า แก้โรคพิษสุราเรื้อรังได้ดี นอกจากนี้ผู้นิยมสมุนไพรยังแจ้งผลการใช้มาว่า แก้พิษได้อีกหลายอย่าง เช่น สุนัขแสนซื่อซึ่งเฝ้าบ้านเก่งโดนวางยาเบื่อ ก็รอดชีวิตมา เพราะเจ้าของคั้นน้ำรางจืดให้กิน หรือในอดีตใครที่ถูกวางยา ก็มักแก้ด้วยรางจืดเช่นกัน

รางจืด (Thumbergia laurifolia Linn.) อยู่ในวงศ์ Acanthaceae เป็นไม้เถา ดอกสีม่วง ขึ้นตามป่าดิบ ป่าละเมาะหรือทุ่งหญ้า

สรรพคุณที่เป็นรูปธรรมของรางจืดยังมีอีกมาก เช่น สามารถแก้อาการท้องร่วง อาการแพ้ ผื่นคัน เนื่องจากอาหารเป็นพิษ สำหรับรางจืดที่ใช้ในการขจัดสารพิษ และแก้เมาค้างนั้น คือ รางจืดเถา ชนิดดอกสีม่วง เพราะมีโอสถสารที่รากและใบแรงกว่ารางจืดชนิดอื่น

แต่สรรพคุณที่ฮิตที่สุดของรางจืดในปัจจุบันที่รู้จักกันแพร่หลาย เห็นทีจะไม่พ้นการเมาค้าง หรือดื่มหนัก (ไม่ขับ) โดยมีวิธีกินว่ากันตามแบบฉบับคลาสสิค ก็ใช้ได้ทั้งการกินสด ๆ และแห้ง คือ เอาใบสด 4-5 ใบ ใส่ครกตำผสมน้ำ ถ้าได้น้ำซาวข้าวยิ่งดี แล้วคั้นเอาน้ำดื่ม หรือจะใช้ส่วนที่เป็นราก และเถารางจืดสดตำคั้นก็ได้ ส่วนวิธีแห้ง ซึ่งเป็นที่นิยมในเวลานี้คือ การนำใบแห้งมาตากทำเป็นชาชงกับน้ำดื่ม เหมือนชงชาจีน ครับ

 Comment : 1
กลับขึ้นด้านบน

 คนภูพาน
 Posted : 2009-04-21 15:40:55   IP : (125.26.141.100)



ปัจจุบันนี้ ปัญหาสารพิษตกค้างในพืชผักและผลไม้มีจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นผลให้ได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายและอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ใน ภายหลัง

การล้างสารพิษในร่างกาย มีพืช ผักผลไม้หลายชนิด ที่เราสามารถนำมาล้างได้ เช่น ผัก ผลไม้ ผักใบเขียวๆ มะละกอ แครอต ตำลึง ฯลฯ สมัยก่อนชาวบ้านมักจะเชื่อว่า รางจืด, ว่านจืด, ข่าจืด ช่วยล้างพิษได้ แต่ที่นิยมมากที่สุดขณะนี้คือ รางจืด สรรพคุณรางจืดตามตำรายาไทยกล่าวไว้ว่า "รางจืดรสเย็น ใช้ปรุงเป็นยาเขียวถอนพิษไข้ ถอนพิษผิดสำแดงและพิษอื่นๆ ใช้แก้ร้อนใน กระหายน้ำ รักษาโรคหอบหืดเรื้อรัง และแก้ผื่นคันจากอาการแพ้ต่างๆ ใช้แก้พิษเบื่อเมาเนื่องจากเห็ดพิษ สารหนู หรือแม้ยาเบื่อประเภทยาสั่ง v สำหรับคนที่เป็นนักดื่มสุราย่อมรู้ดีว่ารางจืดช่วยถอนพิษสุราได้ สิ่งที่ยอมรับคือ หากดื่มสุราจัดเกินขนาดแล้วเกิดอาการเมาค้าง รางจืดช่วยถอนอาการเมาค้างได้แน่ นอกจากนี้ผู้นิยมสมุนไพรยังแจ้งผลการใช้มาว่าแก้พิษได้อีกหลายอย่าง เช่น สุนัขโดนวางยาเบื่อก็รอดชีวิตมาได้ โดยเจ้าของคั้นน้ำรางจืดให้กิน หรือในอดีตใครที่ถูกวางยาก็มักแก้ด้วยรางจืดเช่นกัน v รางจืด เป็นสมุนไพรไทยที่ได้รับการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ว่า มีสรรพคุณแก้ท้องร่วง อาการแพ้ ผื่นคัน แก้พิษยาฆ่าแมลงในสัตว์ แก้พิษจากสารในยากำจัดศัตรูพืช แก้พิษเคมี พิษเบื่อเมา พิษแอลกอฮอล์ พิษสุราเรื้อรัง พิษสะสมในร่างกาย ไข้ร้อนใน ฯลฯ ปัจจุบันมีผู้นำรางจืดมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ใบชา หรือถุงชาในแพ็กเกจสวยหรูดูดี และยังทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสำเร็จรูป ซึ่งเป็นของกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ชุมชน หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ราคาย่อมเยา สามารถชงดื่มได้ทันที ใบรางจืดอบแห้งมีกลิ่นใบไม้แห้งหอมอ่อนๆ เป็นธรรมชาติ ให้น้ำชาสีน้ำตาลออกเขียว มีสรรพคุณกำจัดพิษ แก้เมาค้าง บรรเทาอาการผื่นแพ้ และลดความร้อนในร่างกาย เหมาะกับเมืองไทยในขณะนี้ที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ

ชารางจืดไม่มีพิษ ดื่มเป็นประจำได้ทุกวัน ใบสดนำมาคั้นกับน้ำเพื่อให้ผู้ป่วยที่กินยาฆ่าแมลงดื่ม เป็นการปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลได้ แต่จะไม่ให้ผลในการกินเพื่อป้องกันก่อนสัมผัสยาฆ่าแมลง ในทางกลับกันสมุนไพรรางจืดนี้ซึ่งหาได้ง่ายในแถบชนบทอยู่แล้ว สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ โดยเฉพาะเกษตรกรที่ต้องใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สามารถนำใบรางจืดมาต้มทำเป็นชารางจืด ดื่มแทนน้ำธรรมดาเพื่อให้ทำลายและขับพิษสารเคมีไม่ให้ตกค้างในร่างกาย โดยพิษของยากำจัดศัตรูพืชจะทำให้เกิดอาการวิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก หายใจลำบาก

สำหรับความเชื่อในวงเหล้า ที่นำรางจืดมาเคี้ยวเพื่อดับฤทธิ์เอทิลแอลกอฮอล์ เพื่อทำให้ดื่มได้นานไม่เมานั้น ยังไม่เคยมีการศึกษาวิจัยมาก่อนและไม่แนะนำให้ปฏิบัติด้วย เพราะสุดท้ายเมื่อเหล้าเข้าสู่ร่างกาย ก็จะไปทำลายอวัยวะที่เป็นทางผ่านทั้งหมดและทำลายที่ตับ ทำให้ตับทำงานหนักที่สุด ตับจึงได้รับพิษจากเหล้ามากที่สุด เซลล์ตับที่ถูกทำลายจะมีไขมันไปเกาะแทนที่ ทำให้เกิดตับอักเสบเนื่องจากการคั่งของไขมัน ทำให้เซลล์ตับถูกทำลายมากขึ้นไปอีก และเมื่อเซลล์ตับตายลงถึงระดับหนึ่ง ก็จะมีพังผืดไปขึ้นที่บริเวณนั้นลักษณะคล้ายแผลเป็น ส่งผลให้เนื้อตับที่เคยอ่อนนุ่มกลับแข็งตัวขึ้น เกิดอาการตับแข็งได้ในที่สุด โอกาสเสียชีวิตมีเร็วขึ้น

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณสำหรับลูกค้าเก่าที่สนใจติดต่อสอบถามเข้ามามากตอนนี้
    สินค้าผลิตไม่ทัน กรุณาสั่งจองล่างหน้า นะครับ
    และจะติต่อรับสินค้าในภายหลัง

    ตอบลบ